“มหัศจรรย์แห่งสุขภาพ
จากขนมปังรสเปรี้ยว”
ชาวยุโรปนิยมทานขนมปังแบบไหน?
ถ้าคุณเคยมีโอกาสได้ไปพักในโรงแรมซักแห่งที่ยุโรป หรือเคยดูหนังฝรั่งคลาสสิกที่มีฉากในร้านอาหารหรู คุณอาจได้เห็นขนมปังที่มีสีสัน และหน้าตาแปลกๆ แตกต่างจากขนมปังปอนด์ทรงสี่เหลี่ยมทั่วไปที่เราซื้อทานเป็นประจำ
และถ้าคุณเกิดอยากลองทานขนมปังแปลกๆที่ว่านี้ ก็ไม่ใช่จะหยิบเป็นแผ่นๆมาปิ้งได้เลยนะคะ คุณจะต้องใช้มีดหั่นสไลด์มัน จนเกิดเป็นเสียงดังครืดๆอยู่หลายที กว่าจะได้ออกมาซักแผ่น แล้วจึงค่อยนำไปปิ้งทานได้
พฤติกรรมแบบนี้ คนไทยเราอาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ และเลือกที่จะหยิบขนมปังแบบทั่วไปทานกันมากกว่า แต่เชื่อไหมคะว่าสำหรับชาวยุโรป ถ้ามีให้เลือก พวกเขาจะเลือกทานขนมปังแปลกๆนี้เสมอ เพราะมันคือ…

“ความอร่อยที่ช่วยดูแลสุขภาพ”
ขนมปังที่ว่านี้เรียกกันว่า Sourdough ค่ะ (อ่านว่า ซาวโด)
ความจริงแล้ว Sourdough เป็นต้นกำเนิดของขนมปังก่อนจะเกิดการ Industrialize หรือผลิตขนมปังปริมาณมากเพื่อขายแบบอุตสาหกรรม
ในอดีตหลายร้อยปีก่อน ถ้าเราอยากทานขนมปัง เราก็ต้องหมักแป้งด้วยตัวเองโดยใช้ยีสต์และแบคทีเรียที่อยู่ในอากาศ อยู่ในน้ำ และอยู่ในธรรมชาติรอบตัวของเรา เราเรียกการหมักขนมปังแบบนี้ว่า หมักโดย “ยีสต์ธรรมชาติ” เพราะมันไม่ได้เกิดจากโรงงานเหมือนยีสต์อุตสาหกรรมที่ถูกใช้ผลิตขนมปังในปัจจุบัน
การทำงานของยีสต์ธรรมชาตินั้นเชื่องช้า กว่าจะหมักได้ที่จึงเกิด Lactic Acid หรือ กรดแลคติกที่เป็นแบคทีเรียมาทำงานควบคู่ไปกับตัวยีสต์ ขนมปังที่ได้จึงมีรสชาติเปรี้ยวอ่อนๆกลมกล่อม จนได้ชื่อเรียกว่า Sourdough ที่แปลตรงตัวว่า “แป้งที่มีรสเปรี้ยว” ค่ะ
“รสชาติดีมาก เปรี้ยวแบบที่ชอบ เนื้อแป้งคือดีมากก ชอบ มันฉ่ำๆ เหนียวๆ ยืดๆนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ ได้อารมณ์ sourdough แท้”

“Sourdough ต่างจากขนมปังทั่วไปยังไง?”
เมื่อขนมปังกลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง จึงเกิดการผลิตแบบอุตสาหกรรม ที่มีเป้าหมายเพื่อการผลิตให้ได้เยอะที่สุด เร็วที่สุด และเก็บได้นานที่สุด ยีสต์ธรรมชาติจึงถูกแทนที่ด้วยยีสต์อุตสาหกรรมที่ทำงานได้เร็วกว่าหลายเท่า และมีการเติมสารกันบูดเข้ามาเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา
ขนมปังอุตสาหกรรมในถุงพลาสติกที่เราหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตจึงกลายมาเป็นมาตรฐานที่หาซื้อได้ง่าย และมีราคาต่ำ ส่วน Sourdough ก็ค่อยๆเลือนหายไปจากมื้ออาหารทั่วไป คนหมักแป้งเองน้อยลง หาซื้อได้ยาก และราคาก็แพงกว่า
จนกระทั่งเทรนด์ “รักสุขภาพ” เริ่มต้นขึ้น…
เมื่ออาหารจากวงการอุตสาหกรรมแปรรูป ก่อให้เกิดโรคร้ายหลายชนิด ทั้งมะเร็ง เนื้องอก เบาหวาน และโรคอ้วนที่เป็นต้นเหตุของความเจ็บป่วยอีกมากมาย ชาวยุโรปจึงเริ่มหันหน้าย้อนกลับเข้าหาความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
พวกเขาเริ่มทานผักที่ปลูกแบบธรรมชาติ (Organic) เริ่มทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการแปรรูป และได้ค้นพบว่าขนมปังแบบดั้งเดิมนั้นไม่ได้ทำให้อ้วนเหมือนการทานแป้งทั่วไปซะหน่อย
“Sourdough คือคาร์โบไฮเดรตที่ดีที่สุดในโลก!”
เพราะแทนที่จะก่อโทษ มันกลับให้ประโยชน์ต่อร่างกายมหาศาล…
“คุมน้ำตาล คุมแคลอรี่ คุมน้ำหนัก”
โดยทั่วไป ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนัก คุณต้องพยายามลดการทานแป้งใช่ไหมคะ?
เพราะเมื่อเราทานแป้ง ร่างกายเราจะย่อยมันให้กลายเป็นน้ำตาลโมเลกุลเล็กๆที่ชื่อว่า “กลูโคส” เพื่อดูดซึมไปใช้เป็นพลังงาน เวลาที่เราทานแป้งเยอะ น้ำตาลในเลือดก็จะเยอะ และถ้ามันเยอะเกินไปร่างกายก็จะพยายามกำจัดมัน โดยการเปลี่ยนน้ำตาลให้กลายเป็นไขมันไปเก็บสะสมไว้เป็นพลังงานในอนาคต
เราก็เลยได้เห็นพุงย้อยๆ หรือเหนียงยานๆอันไม่พึงประสงค์ เวลาทานแป้งเยอะเกินไปไงล่ะคะ
ในทางการแพทย์จะมีตัวเลขตัวหนึ่งเป็นตัววัดว่า อาหารชนิดไหนยิ่งทานยิ่งเพิ่มปริมาณกลูโคสในเลือดสูง และยิ่งทำให้อ้วน ค่านั้นเรียกว่า Glycemic Index (GI) หรือ “ดัชนีน้ำตาล” ค่ะ ยิ่งคุณทานอาหารที่ค่า GI สูง น้ำตาลในเลือดก็ยิ่งพุ่งเร็ว และตกเร็ว ส่งผลให้เราง่วงเหงาหาวนอนหลังทานข้าวเสร็จ และยังทำให้กลับมาหิวใหม่อย่างรวดเร็วอีกต่างหาก แถมถ้ากินแล้วนั่งๆนอนๆ พลังงานจากน้ำตาลนั้นไม่ถูกนำไปใช้ให้หมด ร่างกายก็จะเปลี่ยนมันเป็นไขมันให้สะสม ทำให้เราอ้วนฉุอีกด้วยค่ะ
ค่า GI ของอาหารถูกแบ่งออกเป็น 3 ช่วงค่ะ
GI > 70 คือ สูง
56 > GI > 69 คือ ปานกลาง
GI < 55 คือ ต่ำ
ข้าวสวย ซึ่งเป็นแหล่งแป้งหลักของคนไทย ค่า GI จะอยู่ที่ 88
ขนมปังขัดขาวที่เราซื้อทานกันทั่วไป ค่า GI จะอยู่ที่ 71
และโดนัท ของหวานของโปรดของเรา ค่า GI จะอยู่ที่ 76
แต่ Sourdough มีค่า GI อยู่ที่ 54 เท่านั้นค่ะ

ดังนั้น ความจริงแล้วคุณสามารถลดน้ำหนักได้ โดยไม่ต้องลดแป้งซักนิด แต่
“แค่เปลี่ยนมาทานแป้งที่ดีต่อสุขภาพแบบ Sourdough เท่านั้นเองค่ะ”
ความหัศจรรย์ของ Sourdough ที่มีต่อสุขภาพยังไม่หมดเท่านี้นะคะ…
“ย่อยง่าย ขับถ่ายคล่อง สบายลำไส้”
“กินแล้วอยู่ท้องแต่ไม่แน่น พักแป๊บนึงออกกำลังกายต่อได้ไม่จุก ไม่เหมือนแป้งอื่นๆ”

เนื่องจาก Sourdough ผ่านการหมักเป็นเวลานาน ทำให้โครงสร้าง Gluten ส่วนใหญ่ย่อยสลายไป กระเพาะอาหารจึงย่อยได้ง่าย ทานแล้วไม่แน่นท้อง และไม่เกิดแก๊ซจนพุงบวมอึดอัดเหมือนแป้งอื่นๆ
Sourdough ยังเต็มไปด้วย Fiber ที่ช่วยให้กากอาหารแข็งตัว และช่วยให้คุณขับถ่ายได้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ
และนอกจากนี้ คุณคงเคยเห็นอาหารเสริมประเภทที่ช่วยเพิ่ม Probiotic เพื่อปรับสมดุลลำไส้ พัฒนาระบบย่อยอาหารและดูแลระบบขับถ่ายใช่ไหมคะ? นั่นแหละค่ะ สิ่งที่คุณจะได้ ผ่าน Texture ที่กรอบนอกนุ่มในของ Sourdough
เพราะ Sourdough มี Prebiotic ซึ่งเป็นแหล่งอาหารชั้นยอดของจุลินทรีย์ Probiotic การทาน Sourdough จึงทำให้ Probiotic ในร่างกายของคุณเติบโตและมีปริมาณเพิ่มขึ้นได้โดยไม่ต้องทานอาหารเสริมเลยล่ะค่ะ
ทั้งค่า GI ที่ต่ำ Prebiotic ปริมาณสูง เนื้อขนมปังที่ย่อยง่าย และใยอาหารที่มีอยู่มาก ทำให้ Sourdough เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับคนรักสุขภาพ แต่ยังไม่อยากบอกลากลิ่นหอมตลบอบอวล เสียง Crust กรอบๆ และเนื้อนุ่มหนึบของขนมปัง
“แล้วจะหาทาน Sourdough แท้ๆได้จากที่ไหน?”
ด้วยกระบวนการผลิตที่ยุ่งยาก และใช้เวลา การผลิต Sourdough จึงหาคนทำยากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่ชื่อ Sourdough ยังไม่เป็นที่คุ้นเคย และสภาพภูมิอากาศร้อนจัดซึ่งยากต่อการจัดการยีสต์ธรรมชาติ จึงต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ และความชำนาญสูงในการบาลานซ์รสชาติของขนมให้ออกมาอร่อยกลมกล่อม และไม่เปรี้ยวจัด
นั่นเป็นสาเหตุที่หนึ่งตัดสินใจใช้ความรู้จากการเป็นเชฟเบเกอรี่ 13 ปีมาเปิดร้าน Sourdough Saga เพื่อให้บริการ Delivery ขนมสำหรับคนรักสุขภาพทั่วประเทศ

ถ้าคุณเป็นอีกคนที่รักสุขภาพ และสนใจอยากลองความกรอบนอกนุ่มใน ที่เข้าเตาอบทีหอมตลบอบอวลไปทั่วบ้าน…
คลิกไปดูเมนู Sourdough ของหนึ่งได้ที่นี่เลยค่ะ
Copyright © 2021 sourdoughsaga.com All Rights Reserved