ข้าวโคริ CORI
ข้าวแคลอรีตำ่ นำ้ตาลต่ำ
ข้าวโคริ CORI Coco Rice คืออะไร
ข้าวหอมมะลิแท้100% ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัยมาตรฐานส่งออก โดยการผสมผสานผงมะพร้าวด้วยเทคนิคเฉพาะทำให้น้ำมันมะพร้าวแทรกซึมเข้าไปในทุกเมล็ดข้าว
เปี่ยมคุณค่าสารอาหาร มีวิตามิน B1 ,ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม, แคลเซียม และไฟเบอร์สูง และยังมีกรดไขมันดีจากมะพร้าวทำให้เวลาหุงข้าวเรียงเมล็ดสวย และกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งบ้าน
ใครควรทานข้าวโคริ?
– เด็กและผู้ใหญ่ทุกคนที่ชอบทานข้าวหอมมะลิ
– คนที่ต้องการคุมแคลอรี และนำ้ตาล
– คนที่ต้องการลดนำ้หนัก
– ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยไต
เหมือนข้าวหอมมะลินุ่มๆที่มีรสชาติหอมหวานจากมะพร้าวธรรมชาติและยางข้าว ทานแทนข้าวปกติที่ทานอยู่ได้เลย
วิธีหุง/ เก็บรักษาข้าวโคริ
แต่ให้รีบนำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 12 ชม. แล้วจึงนำมาอุ่นรับประทาน ข้าวที่เหลือสามารถเก็บในตู้เย็นได้อีก7วัน
ไขมันในมะพร้าวที่แทรกซึมอยู่ในเมล็ดข้าวจะเปลี่ยนโครงสร้างแป้งให้มีคุณสมบัติต้านทานการย่อยเป็นน้ำตาลได้ยากขึ้น (Resistant starch) เมื่อแป้งย่อยเป็นน้ำตาลได้น้อยลง น้ำตาลจึงถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายน้อยลง…..
พอย่อยไม่ได้ ก็ดูดซึมไม่ได้ กินข้าวเท่าเดิม แต่แคลอรีและนำ้ตาลหายไปกว่าครึ่ง ส่วนวิตามินและสารอาหารยังครบถ้วน
ข้าว 1 ถุง 300 กรัม หุงได้ข้าวสวย 5 จาน
ก่อนแช่เย็น 1 จาน = 232 แคลอรี/ คาร์บ 45 กรัม/ ไขมัน 4 กรัม/ โปรตีน 4 กรัม
หลังแช่เย็น ไขมัน และโปรตีนเท่าเดิม แต่แคลอรีและคาร์บลดลง 30-50% แล้วแต่ระบบดูดซึมของแต่ละคนค่ะ
แป้งต้านทานการย่อย (Resistant Starch)
เป็นแป้งที่ไม่ถูกย่อยและไม่ถูกดูดซึมในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก แต่สามารถเคลื่อนผ่านไปถึงบริเวณลำไส้ใหญ่ ทำหน้าที่เป็น อาหารจุลินทรีย์หรือพรีไบโอติก
แป้งต้านทานการย่อยสูง จะมีค่า Glycemic Index (GI) ต่ำ อาหารที่มีค่า GI สามารถช่วยควบคุมให้ระดับน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับปกติได้ ช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่มและลดความอยากอาหาร ระดับอินซูลินลดลง ส่งผลต่อการลดระดับไขมัน ควบคุมระดับโคเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคเบาหวาน
แป้งต้านทานการย่อย จะถูกย่อยด้วยเวลานานประมาณ 5-7 ชั่วโมงหลังการรับประทาน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินลดลง ส่วนแป้งที่ถูกย่อยทันทีหลังรับประทาน ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินเพิ่มขึ้นหลังการรับประทาน
Coco Rice ของเราได้ถูกพัฒนาออกมาให้มีค่าแป้งต้านทานการย่อยสูงกว่าข้าวปกติ จึงทำให้ผู้บริโภคได้รับสารอาหารจากข้าวและมะพร้าวครบถ้วน โดยที่จำนวนแคลอรีลดลงกว่าครึ่ง และค่าดัชนีนำ้ตาลในเลือดไม่พุ่งสูง
ประโยชน์ของแป้งต้านทานการย่อย
1. กระบวนการหมักแป้งต้านทานการย่อยโดยจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ เกิดผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ คือ กรดไขมันชนิดสายสั้น แอซีเตท โพรพิโอเนต และบิวไทเรต ที่สามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับเซลล์บริเวณลำไส้ใหญ่ (colonocytes)
2. กรดไขมันชนิดสายสั้นที่สาคัญที่สุดคือ บิวไทเรต ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดมาเลี้ยงบริเวณเยื่อบุลำไส้ใหญ่มากขึ้น จึงช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของเยื่อบุลำไส้ใหญ่ และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับระบบทางเดินอาหาร (Wong et al., 2006; Clark et al., 2008; Mcorist et al., 2011)
3. บิวไทเรต ส่งผลต่อกระบวนการเผาผลาญ (metabolism) โดยประมาณ 70-90 % ของบิวไทเรต จะถูกเผาผลาญ โดยเซลล์ชั้นผิวของลำไส้ใหญ่ ดังนั้น การขาดบิวไทเรต จะทำให้เกิดการอักเสบของลำไส้ใหญ่ได้ สอดคล้องกับงานวิจัยของ Nugent (2005) และบิวไทเรตช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยมีผลป้องกันและยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ลำไส้ใหญ่ที่ผิดปกติ
4. เพิ่มการแบ่งตัวจำนวนจุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยสลายเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำ ส่งผลต่อการช่วยกระตุ้นการขับถ่ายกากเส้นใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำและไม่ถูกย่อย เช่น เซลลูโลส (cellulose) เป็นต้น
Credits: ดร.รุ่งโรจน์ เมาลานนท์
นักวิจัยทีมวิจัยวิศวกรรมกระบวนการและระบบตรวจติดตาม
ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ